แจกทริคการใช้เครื่องฟอกอากาศให้ถูกต้อง พร้อมวิธีดูแลรักษา

 การใช้ชีวิตในยุคสมัยใหม่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ที่ภายนอกมีทั้งฝุ่นและมลภาวะสูง แต่เวลากลับบ้าน เชื่อว่าทุกคนก็อยากให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยสูงสุด รวมถึงอากาศในบ้านก็อยากให้มีอากาศบริสุทธิ์ สูดหายใจได้อย่างเต็มปอดไม่มีกังวล ดังนั้น แต่ละบ้านจึงควรมีตัวช่วยอย่างเครื่องฟอกอากาศ ที่จะช่วยให้อากาศในบ้านสะอาดปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

            แต่ถ้าหากอยากจะมีเครื่องฟอกอากาศติดบ้านสักตัว ไม่ใช่ซื้ออะไรก็ได้ เพราะอย่าลืมว่าเราใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยการหายใจ เมื่อเราอยากให้อากาศในบ้านสะอาดปลอดภัยสูงสุด การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพและมาตรฐาน อย่างเครื่องฟอกอากาศไฮเออร์ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน 

            นอกจากเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศดีๆ สักตัวแล้ว เอามาตั้งแล้วเปิดใช้งานอย่างเดียว แต่ไม่ดูแลรักษาและใช้งานอย่างเหมาะสม ก็อาจส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร แล้ววิธีดูแลรักษาเครื่องฟอกอากาศ และวิธีใช้งานเครื่องฟอกอากาศอย่างเหมาะสม จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1.    ดูแลและทำความสะอาดแผ่นกรองอย่างสม่ำเสมอ หากเป็นเครื่องฟอกอากาศไฮเออร์ จะมีระบบกรองหลายขั้นตอน และมีแผ่นกรอง 3 ชั้น โดยชั้นแรกจะทำหน้าที่กรองฝุ่นขนาดใหญ่ หากเห็นว่าบนแผ่นกรองมีฝุ่นจับตัวหนา ควรถอดออกไปล้างทำความสะอาดโดยใช้แปรงปัดฝุ่น แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนนำไปใช้งานอีกครั้ง ส่วนแผ่นกรองชั้นอื่นๆ ทำหน้าที่กรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ตัวอย่างเช่นฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงสารระเหย ก๊าซ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมื่อใช้ไปสักพักควรนำออกมาทำความสะอาดโดยเคาะหรือปัดฝุ่น การดูแลทำความสะอาดแผ่นกรองจะช่วยให้การกรองอากาศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ระยะเวลาในการนำแผ่นกรองออกมาทำความสะอาด ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล

2.   ควรเปลี่ยนแผ่นกรองใหม่ เมื่อถึงเวลา แม้การทำความสะอาดแผ่นกรองจะเป็นข้อดีที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องฟอกอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่หากใช้งานไปสักพัก แผ่นกรองจะเสื่อมประสิทธิภาพลงเป็นเรื่องปกติ โดยทั่วไปแล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน – 1 ปี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล

https://www.youtube.com/watch?v=3MKZKSszx3g

3.   ควรทำความสะอาดภายนอกเครื่องฟอกอากาศด้วย การทำความสะอาดข้างในอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องทำความสะอาดภายนอกอย่างสม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะบริเวณช่องที่ปล่อยอากาศออกมา โดยการทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอกสามารถทำได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด เช็ดทำความสะอาด

4.   ควรใช้งานเครื่องฟอกอากาศในพื้นที่ปิด เช่นเดียวกับเครื่องปรับอากาศ เพราะตัวเครื่องฟอกอากาศจะดึงเอาอากาศภายในห้องมาฟอกภายตัวเครื่อง แล้วปล่อยออกมาหมุนเวียนอยู่ภายในห้อง ดังนั้นการเปิดห้องโล่งแล้วใช้งานเครื่องฟอกอากาศ ก็จะทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักตลอดเวลา ส่งผลให้เครื่องฟอกอากาศเสื่อมประสิทธิภาพการใช้งานเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อากาศภายในห้องก็ไม่สะอาดเท่าที่ควร เพราะมีมลภาวะจากอากาศภายนอกลอยเข้ามาปนเปื้อนนั่นเอง

5.   ไม่ควรตั้งเครื่องฟอกอากาศและเครื่องปรับอากาศไว้ในมุมเดียวกัน เพราะทั้งคู่มีหลักการทำงานที่คล้ายกัน คือ การดึงอากาศโดยรอบเข้าไปเพื่อกรองก่อนปล่อยอากาศออกมา หากวางไว้ใกล้กัน หรือในมุมเดียวกัน ก็จะเกิดการแย่งอากาศกันนั่นเอง ถ้าหากเปรียบเทียบกำลังการทำงานของทั้งสองชนิด เครื่องปรับอากาศจะมีกำลังมากกว่า ดังนั้น มีโอกาสที่เครื่องปรับอากาศจะดึงอากาศไปได้มากกว่าเครื่องฟอกอากาศ ทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

6.   ไม่ควรวางสิ่งของขวางทางอากาศเข้าออก เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศจะดึงอากาศจากด้านล่างเครื่องเข้าไปฟอกก่อนปล่อยออกมาทางด้านบน ดังนั้นตำแหน่งในการวางเครื่องฟอกอากาศนอกจากวางคนละมุมกับแอร์แล้ว ก็ควรวางอยู่ในที่โล่ง ไม่มีสิ่งของวางรอบๆ

7.   ขนาดของเครื่องฟอกอากาศกับขนาดห้องควรสัมพันธ์กัน อันดับแรกควรประเมินขนาดห้องของตัวเองก่อนเลือกซื้อ จากนั้นเลือกแบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดที่ต้องการ อย่างเช่น Haier Air Purifier ที่มีขนาดเครื่องฟอกอากาศให้เลือกซื้อหลากหลายขนาด หากใช้เครื่องฟอกอากาศที่ขนาดไม่สัมพันธ์กับขนาดห้อง อาจทำให้เครื่องฟอกอากาศทำงานหนักเกินไปและอากาศที่ได้ก็ไม่สะอาดเพียงพอนั่นเอง

ถ้าหากบ้านไหนสามารถทำตามคำแนะนำได้ทั้งหมด เพียงเท่านี้ ทุกคนก็จะได้เครื่องฟอกอากาศที่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเป็นตัวช่วยทำให้อากาศภายในบ้านสะอาด ไร้กังวลเรื่องฝุ่นและเชื้อโรค