สัญญาณเตือนที่บอกว่า แอร์ของคุณกำลังมีปัญหา

ถ้าเลือกได้ ใคร ๆ ก็คงเลือก อยู่ในห้องหรือพื้นที่ที่มีแอร์ เพราะที่ไหนมีแอร์ที่นั่นก็จะเต็มไปด้วยอากาศเย็นและความสดชื่น ช่วยให้เรารู้สึกชิลและฟีลกู้ดได้ในทุกอารมณ์ ชีวิตภายใต้ลมเย็นจากแอร์ถือเป็นความสบายอย่างหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ ยิ่งในวันที่อากาศร้อนหรืออากาศไม่สดใส การมีแอร์จะช่วยให้เรายังคงหายใจได้อย่างสะดวกและรู้สึกผ่อนคลายอยู่เสมอ

แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งแอร์ของคุณ เริ่มมีสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง หรือเริ่มมีอาการที่บ่งบอกว่ากำลังใกล้จะพัง เพื่อเป็นป้องกันก่อนแอร์พังอย่างถาวร ไฮเออร์จึงมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสังเกตสัญญาณเตือนที่มักพบเจอได้บ่อยและบ่งบอกว่าแอร์ของคุณกำลังมีปัญหา พร้อมวิธีการแก้ไขเบื้องต้นมาฝากกัน

1. ลมที่ออกมาจากแอร์ไม่เย็น 

ใครเจอปัญหานี้ให้เช็คเบื้องต้นดูก่อนเลยว่าเราเผลอปิดหน้าต่างหรือประตูไม่สนิทหรือเปล่า แต่ถ้าชัวร์แล้วว่าเราได้ทำการปิดไว้อย่างเรียบร้อย ก็สามารถลองเช็คที่ตัวเครื่องของแอร์ได้เลย ซึ่งสาเหตุที่อาจทำให้ลมที่ออกมาจากแอร์ไม่เย็นนั้นอาจมาจาก

- แผ่นกรองอากาศสกปรก ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้ด้วยการถอดแผ่นกรองออกมาและทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดและปล่อยให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับเข้าไป ดังเดิม

- ระดับสารทำความเย็นต่ำ สาเหตุนี้ต้องเรียกช่างเพื่อมาตรวจสอบระดับสารทำความเย็นและเติมถ้าจำเป็น

- คอมเพรสเซอร์เสีย สาเหตุนี้ควรเรียกช่างมาตรวจสอบและซ่อมแซมหรือเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์

2. เสียงแอร์ดังผิดปกติ 

สัญญาณนี้อาจจะเกิดขึ้นได้กับแอร์ที่มีอายุการใช้งานที่นานแล้ว แต่หากแอร์ของคุณเป็นแอร์ใหม่ เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานแต่เกิดเสียงดังที่ผิดปกติ อาจมีสาเหตุได้ดังนี้

- น็อตหรือชิ้นส่วนหลวม แต่เป็นชิ้นส่วนภายนอกหรือชิ้นส่วนที่ประเมินแล้วว่าสามารถแก้ไขเองได้ เราก็สามารถตรวจสอบและขันน็อตให้แน่นได้ด้วยตัวเอง

- พัดลมสกปรกหรือมีสิ่งแปลกปลอม ให้ทำความสะอาดพัดลมและตรวจสอบว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่ด้านในหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนการล้างแนะนำให้ช่างเป็นผู้ทำ

- คอมเพรสเซอร์หรือมอเตอร์มีปัญหา ควรเรียกช่างมาตรวจสอบและซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน

3. น้ำหยดหรือรั่ว 

หากแอร์ของคุณมีปัญหานี้สาเหตุสามารถเกิดได้หลายแบบ แต่โดยส่วนใหญ่ที่เป็นต้นตอของการทำให้แอร์มีน้ำหยดออกมานั่นก็คือ

- แผ่นกรองอากาศสกปรก ส่งผลให้เกิดการอุดตันที่แผ่นกรองในช่องแอร์ จึงทำให้แอร์มีอาการไม่เย็น และไม่สามารถที่จะระบายความเย็นออกมาได้หมด จึงเกิดเป็นน้ำแข็งเกาะอยู่ภายในตัวเครื่อง และเมื่อแอร์มีอุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งที่เกาะอยู่ภายในนั้นก็จะละลายและกลายเป็นน้ำแอร์หยดออกมานั่นเอง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการถอดฟิลเตอร์ออกมาทำความสะอาด และควรล้างแอร์อย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน  

- ท่อระบายน้ำอุดตัน เวลาที่เราเปิดแอร์เพื่อใช้งานก็มักจะมีฝุ่นละอองที่เมื่อไปรวมกับน้ำก็จะกลายเป็นก้อนอุดตัน ทำให้น้ำไหลผ่านท่อน้ำทิ้งได้ยากขึ้นและอาจจะสะสมจนทำให้ท่อน้ำอุดตัน เบื้องต้นเราจึงควรตรวจสอบดูก่อนว่ามีรอยร้าวหรือมีรอยรั่วหรือไม่ ถ้ามีก็ควรเปลี่ยนถาดน้ำใหม่

4. กลิ่นไม่พึงประสงค์ 

อาจเกิดจากคราบสกปรกในแอร์หรือน้ำขังในถาดรองน้ำทิ้ง มีน้ำแอร์รั่วหรือกระทั่งมีสัตว์เล็ก เช่น หนู แมลงสาบ เป็นต้น เข้าไปอึ ฉี่หรือตายก็เป็นได้ นอกจากนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้

- เชื้อราหรือแบคทีเรียในแอร์ เป็นความชื้นที่ตกค้างภายในเครื่องและสะสมจนเกิดเป็นเชื้อราในที่สุด แต่สามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ คอยล์เย็นและพัดลมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือเรียกช่างมาทำความสะอาด

- ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสม หากเกิดจากสาเหตุนี้แนะนำให้คุณเรียกช่างมาล้างแอร์เพื่อความความสะอาดหมดจดได้เลย

จากสัญญาณเตือนที่พบเจอได้บ่อย ๆ ทั้ง 4 ข้อตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ทุกปัญหาล้วนมีสาเหตุมาจากเรื่องของการดูแลความสะอาดของเครื่องปรับอากาศทั้งสิ้น และเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานให้กับแอร์ พื้นฐานสำคัญที่เราในฐานะผู้ใช้งานควรจะต้องนึกถึงก็คือเรื่องการดูแลความสะอาดแอร์ การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ แต่ถ้าใครต้องการความสะดวกสบายแบบที่สามารถทำเองได้หรือสามารถสั่งการได้ทุกเมื่อที่เราต้องการ แนะนำให้ใช้แอร์ Haier UV Cool Series ที่มี Self-Cleaning ฟังก์ชันการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ โดยจะปรับอุณหภูมิให้ลดต่ำลงจนเกิดเป็นน้ำแข็งปกคลุมภายในเพื่อขจัดคราบสิ่งสกปรกภายใน 20 นาที สะดวกต่อการใช้งาน เหมาะกับทุกบ้านทุกครัวเรือน