วิธีเลือกแอร์ให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ
วิธีเลือกแอร์ไม่ใช่แค่ดูราคาและดีไซน์ภายนอก แต่ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างเพื่อให้ได้เครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมกับบ้าน เย็นสบาย ประหยัดพลังงาน และใช้งานได้ในระยะยาว
วันนี้ไฮเออร์จึงอยากมาแนะนำวิธีเลือกแอร์อย่างถูกต้องให้เพื่อน ๆ กัน จะได้เลือกแอร์อย่างถูกต้อง
1 เลือกแอร์จากขนาด BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องหรือภายในบ้าน
ขนาด BTU (British Thermal Unit) คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศควรคำนวณขนาดห้องและเครื่องปรับอากาศให้พอดีกัน เพราะหากเลือกขนาดไม่เหมาะสมอาจจะทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไปหรือความเย็นไม่ทั่วถึง
2. เลือกแอร์จากประเภทของการใช้งาน
- แอร์ติดผนัง (Wall Type) เหมาะกับห้องทั่วไป เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นแอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
- แอร์แขวน (Celling Type) เหมาะกับห้องกว้าง ขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่น ห้องประชุม ร้านอาหาร เพราะลมสามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง
- แอร์ตั้งพื้น (Floor Standing) เหมาะกับบริเวณที่ไม่สามารถเจาะหรือไม่สามารถติดตั้งเครื่องปรับอากาศได้ เช่น พื้นที่ลานกิจกรรม
- แอร์ฝังฝ้า (Cassette Type) เหมาะสมกับบ้านขนาดใหญ่หรือบริเวณห้องโถงสูงและสำนักงาน เพราะลมสามารถกระจายได้ 4 ทิศทาง
3. เลือกแอร์ระบบ Invertor หรือระบบ Fixed Speed
ข้อดีของการเลือกแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์
- ประหยัดพลังงานมากกว่าระบบ Fixed Speed
- เสียงเงียบระหว่างเปิดเครื่องปรับอากาศ เพราะไม่มีการเปิด-ปิดคอมเพรสเซอร์บ่อยๆ
- ควบคุมอุณหภูมิในห้องให้คงที่
ข้อดีของการเลือกแอร์ระบบ Fixed Speed
- ราคาถูกกว่าระบบอินเวอร์เตอร์
4. ฟังก์ชันที่ช่วยให้ใช้ชีวิตง่ายขึ้น
- Eco Mode โหมดประหยัดพลังงาน ช่วยให้ประหยัดพลังงาน
- Smart Control ควบคุมการทำงานของเครื่องปรับอากาศด้วยระบบ WI-FI หรือ Internet ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต
- Turbo Cool สามารถเร่งความเย็นให้เร็วดั่งใจมากขึ้น
การเลือกแอร์ให้เหมาะกับบ้านไม่ใช่แค่ดูราคา แต่ต้องคำนึงถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ขนาด BTU, ประเภท, เทคโนโลยีประหยัดพลังงาน, ฟังก์ชันเสริม หากเลือกแอร์ได้เหมาะสมกับห้องและบ้านไม่เพียงแค่ทำให้บ้านเย็นสบาย แต่ยังช่วยลดค่าไฟ และทำให้แอร์ใช้งานได้นานยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นทุกคนอย่าลืมเลือกแอร์ให้ถูกวิธีกันนะครับ