กลุ่มบริษัทไฮเออร์เซ็น MOU ร่วมเป็นพันธมิตรระดับโลกกับ จีอี
เตรียมซื้อกิจการของ จีอีแอพพลายแอนซ์
กลุ่มบริษัทไฮเออร์และเจเนอรัล อิเลคทริค ประกาศบันทึกความเข้าใจร่วมกัน (MOU) ในความร่วมมือระดับโลกและการร่วมโครงการเพื่อความเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งในด้านอินเตอร์เน็ตเชิงอุตสาหกรรม บริการด้านสุขภาพ และการผลิตที่ล้ำหน้า ข้อตกลงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์นี้เป็นการจับมือกันของสองบริษัทระดับโลกและสร้างโมเดลทางด้านการลงทุนที่ไร้พรมแดนระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา
กลุ่มบริษัทไฮเออร์ ประเทศจีน ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ ถือหุ้นโดยกลุ่มบริษัทไฮเออร์ 41% นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทไฮเออร์ ประเทศจีน ยังถือครองกิจการต่างประเทศของกลุ่มบริษัทไฮเออร์มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจทั่วโลกของไฮเออร์ โดยจะซื้อกิจการของจีอีแอพพลายแอนซ์ การร่วมกันระหว่างกลุ่มบริษัทไฮเออร์และจีอีแอพพลายแอนซ์จะช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับกลุ่มบริษัทไฮเออร์ในระดับโลก จีอีแอพพลายแอนซ์มีประวัติความเป็นมากว่า 100 ปี มีฐานลูกค้าตั้งแต่ระดับกลางจนถึงระดับไฮเอนด์ มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความสามารถสูง มีวัฒนธรรมองค์กรที่โดดเด่น มีไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนที่แข็งแกร่ง มีระบบโลจิสติกส์และเครือข่ายการกระจายสินค้าของตนเองในตลาดอเมริกาเหนือ และมีระบบควบคุมคุณภาพสินค้าที่ยอดเยี่ยม
มร. จาง รุ่ยหมิ่น ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไฮเออร์ กล่าวว่า “การร่วมเป็นพันธมิตรกันครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับทั้งไฮเออร์และจีอี และผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะนำไปสู่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัท นอกจากนั้นเรายังมีเป้าหมายที่จะทำให้สำเร็จร่วมกันนั่นก็คือการเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ไฮเออร์และจีอี รวมทั้งการพัฒนาพนักงานด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมและความร่วมมือ”
มร. เจฟฟ์ อิมเมลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีอี กล่าวว่า “เรายินดีในการขายกิจการแอพพลายแอนซ์ให้กับไฮเออร์และร่วมเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้ ไฮเออร์มีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในตลาดสหรัฐอเมริกาและสร้างฐานการผลิตขึ้นที่นี่ รวมทั้งการลงทุนต่อไปในธุรกิจ กลยุทธ์โดยรวมที่สำคัญก็คือ นวัตกรรม การแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ และการจัดการแบรนด์ จีอีแอพพลายแอนซ์มีให้ทั้งผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม โรงงานผลิตที่ทันสมัย และทีมงานที่มีพรสวรรค์ นอกจากนั้นเรายังมองเห็นโอกาสที่จะร่วมสร้าง
แบรนด์จีอีในประเทศจีนอีกด้วย”
จีอีมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในหลุยส์วิลล์ เคนตักกี้ และเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนชั้นนำในทวีปอเมริกาเหนือ โดยมีโรงงานผลิต 9 แห่งใน 5 รัฐของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งสร้างระบบโลจิสติกส์และเครือข่ายกระจายสินค้าระดับโลก และความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับลูกค้าทั้งในด้านการขายปลีกและขายส่ง ในปี ค.ศ. 2014 จีอีแอพพลายแอนซ์มีรายได้ประมาณ 5.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ประมาณ 0.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ บริษัทมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 12,000 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 96 อยู่ในสหรัฐอเมริกา
การซื้อจีอีแอพพลายแอนซ์เป็นการลงทุนครั้งสำคัญของไฮเออร์เพื่อขยายกิจการในสหรัฐอเมริกาและในซีกโลกตะวันตก สำนักงานใหญ่ของจีอีแอพพลายแอนซ์จะยังคงตั้งอยู่ในหลุยส์วิลล์ เคนตักกี้ โดยจะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นอิสระภายใต้แนวทางของคณะกรรมการที่มีทีมผู้บริหารอาวุโสปัจจุบันของจีอีเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อคอยแนะนำในด้านกลยุทธ์และการปฏิบัติงานในธุรกิจ ไฮเออร์มีความมุ่งมั่นที่จะลงทุนเพื่อความเติบโตอย่างต่อเนื่องของจีอี
การซื้อขายกิจการครั้งนี้จะสร้างมูลค่าทั้งในทันทีและในระยะยาวให้แก่ชุมชนที่ทั้งสองบริษัทดำเนินกิจการอยู่ รวมทั้งพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้น ไฮเออร์และจีอีแอพพลายแอนซ์จะให้ความสนับสนุนและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและซัพพลายเออร์ร่วมกันในพื้นที่ที่ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้จีอีแอพพลายแอนซ์ได้มีโอกาสเข้าถึงตลาดจีนที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีการเติบโตยิ่งขึ้นในระดับสากล ยิ่งไปกว่านั้นการที่บริษัทมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและมีความเป็นสากลมากขึ้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับพนักงานทุกคนอีกด้วย
มร. เหลียง ไห่ซาน ประธานกลุ่มบริษัทไฮเออร์ ประเทศจีน กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทไฮเออร์และจีอี
แอพพลายแอนซ์ เป็นบริษัทชั้นนำในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในซีกโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก การร่วมเป็นพันธมิตรกันครั้งนี้เป็นการสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้กับทั้งสองฝ่าย ทั้งสองบริษัทต่างเอื้ออำนวยประโยชน์ให้แก่กัน ทั้งในด้านแบรนด์ ตลาด นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และการบริหารจัดการด้านซัพพลายเชนและคุณภาพ ความร่วมมือกันจะช่วยเสริมทั้งแบรนด์ไฮเออร์และจีอี ทีมผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์สูงของจีอีแอพพลายแอนซ์จะยังคงให้คำแนะนำในด้านแนวทางธุรกิจและมีส่วนร่วมในคณะกรรมการบริหาร นอกจากนั้น กลุ่มบริษัทไฮเออร์จะให้การสนับสนุนและสร้างโอกาสในการพัฒนาพนักงานด้วยเครือข่ายการปฏิบัติงานระดับโลกของเรา”