ข่าวประชาสัมพันธ์
ไฮเออร์ เปิดพื้นที่นักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนขยายโอกาส
ร่วมพัฒนาทักษะ- ค้นหาตัวตน และอาชีพที่ใช่
ผ่านโครงการสานฝันสู่อนาคตมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์
เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการประกอบอาชีพการงานในอนาคต จึงก่อให้เกิดโครงการ “สานฝันสู่อนาคต ระดับมัธยมปลาย ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์” โดยได้รับการสนับสนุนจาก ไฮเออร์ (Haier) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลก ได้รวมกลุ่มน้อง ๆ มัธยมปลายที่ศึกษาอยู่ใน “โรงเรียนขยายโอกาส” ทั่วกรุงเทพมหานคร ที่เปิดทำการเรียนการสอน ภายใต้การกำกับดูแลของ สพฐ. ได้มีการเปิดการเรียนการสอนเพิ่มเติมถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อ“ขยายโอกาส” ให้แก่เด็กที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และอยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนได้มีโอกาสศึกษาต่อในโรงเรียนเดิม เพื่อแก้ปัญหาการขาดโอกาสในการศึกษาต่อในโรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนระดับมัธยมปลายอย่างเต็มรูปแบบ
มร.จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไฮเออร์ ในฐานะผู้นำระดับโลกทางด้านนวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับตอบโจทย์ชีวิตอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยึดมั่นหลักการพัฒนาเรื่อง "การให้ความสำคัญกับคุณค่าของมนุษย์ " โดยบริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาตัวเอง เพื่อต่อยอดไปสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้น หรืออาชีพในอนาคต ซึ่งแก่นสำคัญของการค้นหาความฝัน ไปจนถึงเป้าหมายในอนาคตของตัวเองนั้นมาจากการรู้จักค้นหาคุณค่า และความชอบของตัวเอง โดยสำหรับเด็ก ๆ ที่ศึกษาในโรงเรียนขยายโอกาสนั้น การได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาทักษะจำเป็นต่าง ๆ รวมถึงการนำเสนอทางเลือกในชีวิตที่มากขึ้นเพื่อช่วยในการแสวงหาโอกาสที่ดีขึ้นในชีวิต จะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ เหล่านี้อย่างมาก นอกจากนี้ บริษัทยังเล็งเห็นถึงความตั้งใจในการจัดกิจกรรมอันเป็นประโยชน์แม้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายของทุกหน่วยงานและองค์กรต้องเผชิญ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนโครงการสานฝันสู่อนาคต ระดับมัธยมปลาย ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ ให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของเยาวชนในโรงเรียนขยายโอกาสต่อไป”
สรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ หรือ Saturday School กล่าวว่า “มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์มีวิสัยทัศน์ในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้เติบโตไปพร้อมกับสังคมที่เกื้อกูลชีวิตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า เด็กทุกคนสามารถพัฒนาได้ และพวกเขาทุกคนจะประสบความสำเร็จได้เมื่อบุคคลรอบข้างมองเห็นศักยภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ โดยตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการกว่า 6 ปี เรามุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเด็กมัธยมศึกษาตอนต้น เพราะต้องการปลูกฝังความเชื่อมั่นว่าเขาสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตได้ และมีโอกาสแสวงหาการพัฒนาตนเองตั้งแต่วัยเริ่มต้นเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษา อย่างไรก็ตาม เรายังเห็นว่าศักยภาพของเด็กควรได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดตั้งโครงการสานฝันสู่อนาคต (Student Supports) ระดับมัธยมศึกษาปลายขึ้น เพื่อสนับสนุนนักเรียนซึ่งเป็นวัยที่กำลังก้าวไปสู่ระดับอุดมศึกษา หรือการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ไปจนถึงการประกอบอาชีพในอนาคต”
ด้าน ทรรศิกา สิงห์ตุ้ย ผู้จัดการโครงการสานฝันสู่อนาคต ระดับมัธยมปลาย ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์เล่าว่า “จุดเริ่มต้นของโครงการเรามาจากการเล็งเห็นแนวคิดที่น่าสนใจของโรงเรียนขยายโอกาสที่ให้โอกาสน้อง ๆ ระดับชั้นมัธยมปลายได้ศึกษาต่อในระบบการศึกษา แต่ด้วยความเป็น “โรงเรียนขยายโอกาส” ซึ่งหมายถึงการที่น้อง ๆ เหล่านี้อาจไม่ได้มีโอกาสมองเห็นทางเลือกในชีวิต และโอกาสในการพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่เท่าเด็กในโรงเรียนทั่วไป จึงเป็นที่มาของโครงการเราในการคัดเลือกเด็ก ๆ กลุ่มนี้ ที่มีต้นทุนความชอบความสนใจ ความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะเพื่อต่อยอดไปสู่ระดับการศึกษาที่สูงขึ้น หรืออาชีพในอนาคตภายใต้เป้าหมายการพัฒนา 4 ด้านในตัวน้อง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ 1) การรู้และเข้าใจตนเอง (Self-awareness) 2) การล้มแล้วลุก (Resilience) 3) ความคิดแบบพัฒนาได้ (Growth mindset) และ 4) พฤติกรรมเอื้อต่อสังคม (Prosocial behavior)
โดยกิจกรรมที่เราออกแบบขึ้นให้ตอบโจทย์เป้าหมายทั้ง 4 ด้าน ก็มีหลากหลาย เช่น กิจกรรมค้นหาคุณค่าและความชอบของตัวเอง กิจกรรมทำความรู้จักกับ “SMART Goal” หรือเครื่องมือพัฒนาตัวเองที่น้อง ๆ ได้นำมาใช้ตลอดโครงการ กิจกรรมค้นหาความชอบผ่านพี่ ๆ ต้นแบบอาชีพที่มาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพต่าง ๆ เพื่อให้น้อง ๆ ได้เห็นทางเลือกที่หลากหลาย ตลอดจนกิจกรรมพัฒนาทักษะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทักษะการจัดการเวลา ทักษะการเล่าเรื่องให้สนุกสนาน (Storytelling) ทักษะการคิด วิเคราะห์ และแยกแยะ เป็นต้น โดยกิจกรรมส่วนใหญ่เน้นความสนุกสนาน และการมีส่วนร่วมในรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากเราจัดกิจกรรมผ่านช่องทาง Zoom ในทุกวันเสาร์ตลอด 10 สัปดาห์ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกเหนือจากกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์ เรายังมีระบบพี่เมนเทอร์ที่ทำหน้าที่คอยดูแล และติดตามผลการทำ “SMART Goal” ของน้อง ๆ ตลอดโครงการ โดยพี่1 คนจะดูและน้องไม่เกิน 2 คน เพื่อความใกล้ชิดและการมีเวลาให้กันอย่างเต็มที่”
ถลัชนันท์ ทางดี นักเรียนจากโรงเรียนมัธยมปุรณาวาส ตัวแทนผู้เข้าร่วมโครงการสานฝันสู่อนาคต ระดับมัธยมปลาย ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ เผยว่า “ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ เพราะได้รับโอกาสมากมาย ทั้งการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมแบบออนไลน์ทุกวันเสาร์ รวมถึงโอกาสในการทำตามเป้าหมายเรื่องการพัฒนาทักษะด้านการร้องเพลง และการสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งตนได้นำมาตั้งเป็น SMART Goal หรือแผนการพัฒนาตัวเองตลอดโครงการ โดยวางแผนว่าจะต้องฝึกฝนและจดบันทึกพัฒนาการด้านทักษะการร้องเพลงของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำกิจกรรมร้องเพลงเปิดหมวกรับบริจาคในรูปแบบออนไลน์ให้แก่มูลนิธิเยาวชนชนบท ซึ่งสามารถตอบวัตถุประสงค์เรื่องพฤติกรรมเอื้อสังคม (Prosocial behavior) ของโครงการได้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นโชคดีอย่างมากที่ได้จับคู่กับพี่เมนเทอร์ที่พร้อมสนับสนุนการทำตามเป้าหมายของตนอย่างเต็มที่ ทั้งการพาไปทำความรู้จักกับพี่ที่ทำงานในวงการเพลงและสามารถสอนทักษะการร้องเพลงให้ได้ รวมถึงสนับสนุนการฝึกซ้อม และจัดกิจกรรมเปิดหมวกออนไลน์ จนออกมาเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่งของตนเองอีกด้วย”
ทั้งนี้ ไฮเออร์ ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมเพื่อสังคมอีกมากมาย โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทางเฟซบุ๊ค : HaierThailand และสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการสานฝันสู่อนาคต ระดับมัธยมปลาย ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ ได้ที่ facebook.com/SaturdaySchoolThailand
#####